top of page

การทดสอบวัสดุฝ้าเพดาน

การทดสอบไม้

 

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้คุณสมบัติทางกลของไม้เปลี่ยนแปลง

     1. ตำหนิ ทำให้คุณสมบัติทางกลไม้ลดลง เช่น        

  • ตา

  • รอยปริ รอยร้าว รอยแตก

  • แนวเสี้ยนขวาง

  • การผุเนื่องจากเชื้อรา

  •  รูแมลง

  • ตำหนิจากกรอบไม้

     2. ความแน่น คุณสมบัติทางกลของไม้จะแปรผันตามความแน่นของไม้

     3. ปริมาณความชื้น คุณสมบัติทางกลของไม้จะเพิ่มขึ้นเมื่อไม้แห้งลงต่ำกว่าจุดหมาด

     4. อุณหภูมิ คุณสมบัติทางกลของไม้จะลดลงเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น

 

 

 

 

 

ความแข็ง (Hardness)การทดสอบความแข็ง

การทดสอบแรงอัดในแนวตั้งของไม้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

1. วัดขนาดของไม้ตัวอย่างโดยยอมให้ผิดพลาดได้ไม่เกินร้อยละ 0.3

ของมิติที่วัดและหามวลโดยการชั่งให้มีหน่วยเป็นกรัมมีความถูกต้องในการชั่งได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 0.2 ของมวลตัวอย่าง 

 

2. วางไม้ตัวอย่างบนแผ่นเหล็กรองรับ (Bearing Block)

โดยให้แนวเสี้ยนอยู่ในแนวระดับและให้ผิวด้านตั้งฉากกับวงปี (Radial)อยู่ตอนบนสุด

บันทึกความกว้างของผิวด้านนี้วางแผ่นเหล็ก(Bearing Plate) ขนาด 50 มิลลิเมตร

(2นิ้ว) ซึ่งใช้รองรับน้ําหนักที่กดลงโดยวางตามแนวขวางให้ได้กึ่งกลางประมาณ 1ใน 3

ส่วนของความยาวไม้ตัวอย่างให้แนวยาวของแผ่นเหล็กกดทํามุมตั้งฉากกับแนวยาวของไม้ตัวอย่าง

 

3. ติดตั้งมาตรวัดค่าการยุบตัวของตัวอย่างไม้โดยปรับระยะให้ปลายแกนของมาตรวัดสัมผัสกับผิวของไม้ตัวอย่างเล็กน้อยและปรับเข็มที่หน้าปัดให้ชี้ที่ตําแหน่งขีดศูนย์

 

4. ให้แรงกด (Load) บนไม้ตัวอย่างต่อเนื่องด้วยความเร็วประมาณ 0.305 มิลลิเมตรต่อนาทีอ่านค่าการยุบตัว (Deformation) ทุกครั้งที่เพิ่มน้ําหนักกดขึ้น 1,000 นิวตัน ให้มีความละเอียดถึง 0.002 มิลลิเมตร จนกว่าตัวอย่างจะยุบตัวถึง 2.5 มิลลิเมตร หรือเข็มวัดเริ่มหมุนไปอย่างรวดเร็วโดยไม่หยุดจึงหยุดทําการทดสอบแล้วนําตัวอย่างไม้ออกจากเครื่องทดสอบบันทึกค่าลงในแบบฟอร์ม บฟ.มยผ.1221-1 

 

5. เขียนกราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยแรงและความเครียด (Stress-StrainCurve) โดยให้หน่วยแรง (Stress) อยู่บนแกนตั้งและความเครียด (Strain) อยู่บนแกนนอนและให้แสดงค่ากําลังยืดหยุ่น ณ ขีด ปฏิภาคและกําลังครากของไม้ที่ระยะออฟเซท 0.05% หากเส้นกราฟไม่ผ่านจุดเริ่มต้นให้ปรับแก้ใหม่ให้ผ่านจุดเริ่มต้นและให้มีแนวขนานกันกับแนวเดิม 

 

 

  • โดยหลักการแล้ว การทดสอบเกี่ยวข้องกับการยึดติดก้อนวัสดุสำหรับจับยึดเข้ากับพื้นผิวด้านบนและด้านล่างของชิ้นงานทดสอบด้วยกาวที่เหมาะสม มาตรฐาน ASTM D1037, Standard Test Method for Evaluating Properties of Wood-Base Fiber and Particle Panel Materials ระบุว่าฟิกซ์เจอร์สำหรับ การให้แรงด้านบนจะต้องสามารถจัดศูนย์ได้ด้วยตนเอง และก้อนวัสดุสำหรับการจับยึดจะต้องเป็นเหล็กหรือโลหะผสมของอะลูมิเนียมรูป ทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดสองนิ้ว หนาหนึ่งนิ้ว ส่วนฟิกซ์เจอร์ที่ จับยึดก้อนวัสดุนี้จะติดตั้งเข้ากับเครื่องทดสอบและแรงดึงจะถูกส่งผ่านไปใน แนวตั้งฉากกับพื้นผิวของชิ้นงานทดสอบจนกว่าจะเกิดการเสียหาย ความต้านทานแรงดึงจะถูกคำนวณจากค่าแรงสูงสุดที่จุดแตกหักหารด้วยพื้นที่หน้า ตัดของชิ้นงานทดสอบ

 

  • การทดสอบตามมาตรฐานนี้มักใช้เครื่องทดสอบแบบไฟฟ้าเชิงกลรุ่น 3300 หรือ 5500 ที่ติดตั้งโหลดเซลล์ที่มีขนาดเหมาะสมและ ฟิกซ์เจอร์สำหรับการทดสอบการยึดติดภายใน โดยฟิกซ์เจอร์ ของบริษัทจะได้รับการออกแบบตรงตามข้อกำหนดของมาตรฐานการทดสอบ 

 

การทดสอบแผ่นยิปซัม

 

ค่าความตั้งฉาก 

  • เมื่อวัดเส้นทแยงมุมทั้งสองแล้ว ค่าที่ได้ต้องแตกต่างกันไม่เกินร้อยละ 0.25

ของเส้นทแยงมุมที่สั้นกว่า 

 

 

ความตรงของขอบ 

  • ขอบของแผ่นยิปซั่มต้องตรง เมื่อทำการทดสอบตาม มอก.219-2552 แนวของขอบแผ่นยิปซั่มจะคลาดเคลื่อนไปจากแนวตรงได้ไม่เกิน 2 มิลลิเมตร 

 

วัสดุ 

  • วัสดุที่ใช้ในการทำแผ่นยิปซั่มตามที่ระบุไว้ใน มอก. 219-2552 กำหนดให้เป็นไปตาม มอก.188-2547 ซึ่งเป็นปูนยิปซั่มสำหรับงานก่อสร้าง 

 

 

นอกจากคุณลักษณะที่กล่าวมาแล้วยังมีคุณลักษณะที่เกี่ยวการทดสอบคุณสมบัติอื่นๆ ที่มีผลต่อความต้องการในการใช้งานและติดตั้งหรือเรียกตาม มอก.219-2552 ว่า คุณลักษณะที่ต้องการ ดังนี้ 

 

1. แรงกดแตก จะ มีผลต่อการต้านทานการแตกหักของแผ่นยิปซั่ม เมื่อมีการรับแรงกดจากการกดทับหรือการโก่งตัวจากการประกอบ โดยค่าแรงกดแตกจะขึ้นอยู่กับขนาดความหนาของแผ่นยิปซั่ม ซึ่งจะมีการทดสอบทั้งตามแนวยาวและแนวขวางของแผ่นยิปซั่ม 

 

2. แรงต้านการดึงตะปู จะมีผลต่อการยึดเหนี่ยวของตะปูที่ตอกยึดแผ่นยิปซั่มซึ่งมีค่าแรงต้านมากขึ้นตามความหนาของแผ่นยิปซั่ม 

3. การแอ่นตัว จะ มีผลต่อความราบโค้งหรือการโก่งตัวของแผ่นยิปซั่มเมื่อยังไม่ได้ทำการประกอบ หรือรับแรง ซึ่งหากแผ่นยิปซั่มมีค่าความโก่งตัวเกินกว่า 10 มิลลิเมตรตามที่กำหนดไว้ใน มอก. 219-2552 จะมีผลกระทบโดยต่อความราบเรียบของผนังหรือฝ้าที่ใช้แผ่นยิปซั่ม เป็นวัสดุในการทำอีกด้วย 

 

4. การดูดซึมน้ำ (เฉพาะ แผ่นยิปซั่มประเภททนความชื้น) คุณลักษณะข้อนี้จะส่งผลในการที่แผ่นยิปซั่มจะดูดซึมปริมาณของน้ำเมื่อได้รับ ความชื้นหรือเปียกน้ำ ซึ่งหากแผ่นยิปซั่มดูดซึมน้ำมากกว่าที่กำหนดจะมีผลต่อความแข็งแรงของแผ่น ยิปซั่มในกรณีที่ แผ่นยิปซั่มเปียกน้ำ ซึ่งจะพบปัญหานี้ได้บ่อยครั้งเมื่อเราใช้แผ่นยิปซั่มในการทำฝ้าเพดาน แล้วเกิดกรณีหลังคารั่วน้ำหยดลงบนฝ้า โดยการทดสอบจะพิจารณาการดูดซึมของน้ำในช่วงเวลา 2 ชั่วโมง + 2 นาที 

 

5. การทนไฟ (เฉพาะ แผ่นยิปซั่มทนไฟ) คุณลักษณะข้อนี้เป็นคุณลักษณะที่จะแสดงให้เห็นถึงความแข็งแรงทนทนทานจากไฟ ของแผ่นยิปซั่ม โดยการทดสอบใช้เวลา 20นาทีแผ่นยิปซั่มชิ้นทดสอบทั้งหมดต้องไม่ขาดจากกัน และภายในระยะเวลา 30 นาที 4ชิ้น ใน 5 ชิ้นต้องไม่ขาดจากกัน 

 

  •       จากทั้งขนาดเกณฑ์ความคลาดเคลื่อนวัสดุและคุณลักษณะที่ต้องการ ตามที่ มอก.219-2522 กำหนด ให้ทั้งผู้ผลิตและผู้นำเข้าต้องดำเนินการตามที่กำหนด จึงจะได้รับการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เป็นการสร้างความมั่นใจกับผู้ที่จะเลือกใช้แผ่นยิปซั่มเป็นวัสดุในการก่อ สร้างที่อยู่อาศัย ในฐานะผู้ใช้งานหากต้องการสร้างความมั่นใจในคุณภาพที่เป็นไปตามมาตรฐานของ แผ่นยิปซั่มไปใช้ จึงควรเลือกแผ่นยิปซั่มที่ผ่านการเกณฑ์ มอก. 219-2552 เพราะหากพบปัญหาในการนำไปใช้งานที่ไม่เป็นไปตามที่ มอก. 219-2552 กำหนด สามารถที่จะประสานงานไปยังสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยหรือ สมอ.ได้ 

การทดสอบใยหิน

 

            ใยหินทดสอบเป็นวิธีการที่กำหนดในกระบวนการอุตสาหกรรม อาคารพักอาศัย และวัตถุใยหิน ใยหินได้ถูกใช้เป็นวัสดุก่อสร้างในอาคารจนถึงไม่กี่ปีกลับ สารประกอบแร่ ใยหินเป็นชื่อทั่วไปสำหรับกลุ่มหกต่อแร่ธาตุที่พบในหินบางที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ในระหว่างการทำเหมืองและการประมวลผล ใยหินผลิตเส้นใยที่บาง และเบามากที่ได้มีออกไปในอากาศ

 

 

            เมื่อปล่อยอากาศ อนุภาคใยหินสามารถยังคงเลื่อนออกไปเป็นเวลานาน เส้นใยเหล่านี้จะมองไม่เห็นตา และ เมื่อช่วยในสามารถทำให้เกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรงรวมทั้งโรคมะเร็งปอดได้ นี่คือเหตุผลที่ทำไมทดสอบใยหินเป็นตัวป้องกันที่จำเป็นสำหรับผู้จัดการ และทำงานกับวัสดุใยหิน คนการจัดการผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยแร่ใยหิน รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องในการทำเหมืองแร่ ผลิต หรือประมวลผลใยหินหรือใยหินมีความเสี่ยงสุขภาพดีได้ ทรัพยากรธรรมชาติที่ประกอบด้วยแร่ใยหินและท่อที่ทำจากปูนซีเมนต์สามารถปน เปื้อนแม้แต่น้ำดื่ม

 

           ใยหินทดสอบถูกต้อง และขอแนะนำสำหรับพื้นที่ใยหินอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องได้ทำงาน หรือมีใช้ใยหินเป็นวัสดุ

 

 

 

สร้างใยหิน          

  • เราได้อย่างปลอดภัยสามารถสมมติว่า เป็นวัสดุเป็นใยหิน หรือประกอบด้วยใยหินเว้นแต่ว่ามีอย่างอื่นอย่างชัดเจนบนฉลาก หรือตรวจสอบ โดยผู้ผลิต อีก มันได้รับการทดสอบเพื่อตรวจสอบการขาดงานหรือสถานะของใยหินวัสดุใยหิน ใยหินทดสอบเป็นสิ่งจำเป็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าวัสดุเช่นบนของ EPA ประกอบด้วยตัวอย่างรายการของสงสัยว่าใยหินวัสดุออกจากระบบนิเวศ และผลิต ด้วยใยหินในอดีต

 

ใยหินสุ่มตัวอย่าง            

  • สุ่มใยหินเป็นสารตั้งต้นในการทดสอบใยหิน ใยหินสุ่มตัวอย่าง และการวิเคราะห์ควรทำในห้องปฏิบัติการ โดยบุคลากรที่มีคุณสมบัติ มันเป็นอันตรายพยายามนี้เอง โดย ไม่ได้รับข้อมูลที่เพียงพอในการกระบวนการ และไม่ มีมาตรการป้องกันที่เหมาะสม ถ้าไม่สามารถเข้าถึงห้องปฏิบัติการ และคุณต้องใช้ตัวอย่างเอง คุณต้องระวังมากไม่ให้ปล่อยเส้นใยหินใยไป ในอากาศ หรือ บนตัวเอง

การทดสอบไฟเบอร์ซีเมนต์บอร์ด

 

           

bottom of page